Dr Visa Article – 13 May 2020 

ขอวีซ่าอะไรได้บ้างในยุค COVID-19 – sc408 ของออสเตรเลียมีใครบ้างที่เข้าข่าย?

 

ยุคของเหตุการณ์แพร่ระบาดของ Covid-19 ในปัจจุบัน เรียกว่าเป็นประวัติการณ์ หรือที่ศัพท์ภาษาอังกฤษใช้คำว่า unprecedented ที่เกิดขึ้นร้อยปีทีหนจริงๆเลยค่ะ ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงไม่เพียงแต่ต่อสุขภาพกับอัตราการสูญเสียชีวิตของผู้คนจำนวนมากมายจากทั่วโลกโดยเฉพาะในกลุ่มของผู้สูงอายุที่มีภูมิต้านทางในร่างกายต่ำกว่าคนหนุ่มคนสาว หากแต่ผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจของทุกประเทศชาติทั่วโลกนั่นหนะสิคะที่มันรับไม่ได้จริงๆเลยค่ะ ทั่วทุกประเทศทั่วโลก มีคนตกงานมากมาย ร้านค้าปิดกันเป็นแถวๆ และจากการที่ผู้คนเคยได้พบปะสังสรรค์กัน ทานข้าวด้วยกัน เดินทางท่องเที่ยวด้วยกัน กลายเป็นต้องถูกกักตัว self-isolate อยู่กับบ้าน แบบต่างคนต่างอยู่เลยทีเดียว ที่ออสเตรเลียยังดีที่รัฐบาลมีเงินช่วยมาแจกจ่ายให้กับราษฎรและธุรกิจในรูปแบบต่างๆกัน อย่างเช่นโครงการ JobSeeker กับ JobKeeper ซึ่งออกมาด้วยวัตถุประสงค์ที่ไม่เหมือนกัน ก็คือโปรแกรม JobSeeker นั้นมีเอาไว้ช่วยเหลือคนที่ตกงาน โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินช่วยประทังค่ากินอยู่ให้ตามตารางข้างล่างนี้ต่อทุกสองสัปดาห์

Your situationYour maximum fortnightly payment
Single, no children$1115.70
Single, with a dependent child or children$1162.00
Single, aged 60 or over, after 9 continuous months on payment$1162.00
Partnered$1060.80 each
Single principal carer granted an exemption from mutual obligation requirements for any of the following:

  • foster caring
  • non-parent relative caring under a court order
  • home schooling
  • distance education
  • large family

(Source: https://www.servicesaustralia.gov.au/individuals/services/centrelink/jobseeker-payment/how-much-you-can-get)

 

ส่วนโปรแกรม JobKeeper ที่จ่ายให้ลูกจ้างผ่านบัญชีของนายจ้างเป็นจำนวน $1,500 ต่อทุกสองสัปดาห์นั้น ก็ออกมาชั่วคราวจนถึงสิ้นเดือนกันยายนของปี ค.ศ. 2020 ไว้ช่วยเหลือนายจ้างที่มีรายได้ต่ำกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หรือ 50% สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ทั้งหลายที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้มีเงินเดือนพอที่จะจ่ายให้ลูกจ้างเพื่อเก็บรักษาตำแหน่งงานไว้ให้ลูกจ้างในช่วงของโควิด-19 นี้ แต่คนที่มีสิทธิ์จะได้รับเงินช่วยเหลือเหล่านี้ จะต้องเป็นคนที่ถือวีซ่าถาวร (PR) หรือเป็นซิติเซ่นของออสเตรเลีย หรือชาวนิวซีแลนด์เท่านั้น โครงการเงินช่วยเหลือชั่วคราวเหล่านี้จะได้รับการประเมินความเหมาะสมอีกครั้งหลังเดือนกันยายนของปีนี้

จะเห็นได้ว่าประเทศออสเตรเลียนั้น จัดว่าเป็นประเทศที่ดีมากแห่งหนึ่งเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดการควบคุมโรคระบาด หรือด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากรัฐบาลมีเงินพอที่จะดูแลราษฎรในยามที่มีวิกฤติที่ไม่คาดคิดอย่าง Covid-19 เกิดขึ้น ขณะที่ธุรกิจหลายอย่างได้รับผลกระทบจนบางแห่งถึงกับต้องปิดตัวไป แต่ในสายงานของการทำวีซ่า คุณหมอวีซ่ากับทีมงานก็ยังมีเคสวีซ่าเข้ามาให้ทำอยู่เรื่อยๆไม่เคยขาดสาย แต่เราจะขอให้นักศึกษาที่จะเข้ามาเรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลียนั้น ช่วงนี้ให้ชะลอไปก่อนสักพักนึง หรือเลื่อนคอร์สออกไปก่อน เพราะประเทศยังปิดชายแดนกันอยู่ ไม่สามารถเดินทางเข้าออกได้ตามใจชอบได้ในช่วงนี้ แต่พอเปิดประเทศเมื่อไหร่ คุณหมอวีซ่าคาดว่า งานสาย Education นั้นคงจะทำกันไม่ทันแน่นอนเลยค่ะ จะเห็นได้ว่า การได้เป็นราษฎรที่ได้อาศัยอยู่ในประเทศที่ดีดีอย่างประเทศออสเตรเลีย ถือว่าโชคดี เพราะมีรัฐบาลดูแลในยามที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเยี่ยง Covid-19 ในครั้งนี้ ดังนั้น น้องๆท่านใดที่กำลังจะเรียนจบ หากมีวีซ่าตัวใดที่ช่วยให้เราข้ามฝั่งไปเป็น PR ทำงานที่นี่ได้และเรามีคุณสมบัติเพียงพอ ก็ให้รีบสมัครเลยนะคะ จะเป็นผลดีต่ออนาคตของเรามากเลยทีเดียว

 

ช่วงนี้คุณหมอวีซ่าเองก็งานยุ่งอยู่เหมือนเช่นเคย จนไม่ค่อยมีเวลาเขียนบทความมาให้ท่านผู้อ่านเพลิดเพลินกัน แต่วันนี้ตั้งใจมาก เพราะอยากจะเขียนบทความให้กำลังใจกับทุกคน พร้อมแสดงความยินดีกับน้องนักเรียนคนหนึ่งขอเรียกนามสมมุติเป็น “น้องวันใหม่ “ที่อยู่ภายใต้การดูแลของคุณ Amp ที่ CP International สาขาเมลเบิร์นของเรา วันนี้ทางศาลตุลาการที่ Melbourne ได้โทรมาแจ้งคุณหมอวีซ่าว่า ท่านตุลาการพึงพอใจในเอกสารที่ยื่นเข้าไปแทนน้อง ก็เลยได้ตัดสินใจจะสั่งให้ทางอิมฯคืนวีซ่าให้น้อง โดยไม่ต้องมีการสอบปากคำ น้องกับแฟนก็เลยจะได้สิทธิ์อยู่เรียนและทำงานในออสเตรเลียต่อไปได้อีกยาว คุณหมอวีซ่าจึงอยากแสดงความยินดีกับน้องวันใหม่อย่างเป็นทางการผ่านคอลัม blog นี้ และให้กำลังใจน้องๆนักเรียนที่ยังอาศัยอยู่ในออสเตรเลียที่อาจมีปัญหาด้านวีซ่า ก็อย่าท้อถอยนะคะ ทีมงาน CP International  ของเราอาจจะช่วยเหลือท่านได้

อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะเขียนในบทความวันนี้สั้นๆ ก็คือเกี่ยวกับวีซ่าที่เรียกกันว่า “วีซ่าโควิด” หรือที่เรียกย่อๆว่า วีซ่า 408 เนื่องจากมีคนสอบถามเข้ามามากเหลือเกิน ก็ขอชี้แจงว่าวีซ่า 408 นี้ จริงๆก็มีการใช้ยื่นเพื่อประสงค์ของการอนุมัติให้ผู้คนเข้ามาทำหรือร่วมกิจกรรมชั่วคราวต่างๆ เช่น นักร้องนักแสดงนักกีฬา ผู้มาร่วมงานแสดงสินค้า เป็นต้น ซึ่งรัฐบาลเพิ่งประกาศเมื่อเดือนมีนาคมนี้สดๆร้อนๆ เพื่ออนุมัติให้คนบางกลุ่มสามารถอาศัยอยู่ออสเตรเลียต่อไปเพื่อประกอบกิจกรรมที่จำเป็นและสำคัญที่เกี่ยวข้องกับCovid 19  ในออสเตรเลียได้ ที่เรียกกันว่า AGEE (Australian Government Endorsed Event) ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ถือวีซ่าชั่วคราวที่ทำงานอยู่ในออสเตรเลียที่ยังไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ และมีคุณสมบัติเข้าข่ายตามเกณฑ์ของวีซ่า 408 ให้มีสิทธิ์ยื่นวีซ่าตัวนี้เพื่อให้สามารถอาศัยอยู่ในออสเตรเลียต่อไปได้จนกว่าเหตุการณ์จะดีขึ้น

How To Become an Australian Permanent Resident (Migrant)

ที่อยากชี้แจงให้ทราบก็คือ สำหรับวีซ่า 408 AGEE ตัวนี้ ถึงจะออกมาในยุคโควิดก็ตาม จะมีการออกวีซ่าตัวเดียวกันนี้ให้อยู่สองประเภท คือประเภทที่สามารถทำงานได้ และอีกหนึ่งประเภทคือให้ได้อยู่ต่อได้เฉยๆแต่ไม่มีสิทธิ์ทำงานได้ ผู้ที่ได้รับวีซ่าตัวนี้มา จะต้องอ่านเงื่อนไขที่ติดมาให้ดีๆว่าเป็น เงื่อนไข 8107 (1) หรือ 8107 (2) เฉพาะคนที่ได้เงื่อนไข 8407(1) เท่านั้นที่สามารถทำงานได้ ซึ่งมักได้แก่คนที่ขออยู่ต่อเพื่อทำงานที่จำเป็นต่อยุค Covid จริงๆ ที่เรียกว่า Essential หรือ Critical work อย่างเช่นพยาบาล คนที่ทำงานในสถานดูแลผู้สูงอายุ กลุ่มที่ทำงานในฟาร์ม เป็นต้น สำหรับคนที่ได้เงื่อนไข 8107(2) มานั้น แปลว่า สามารถอยู่ในออสเตรเลียได้จนถึงประมาณเดือนตุลาคมปีค.ศ. 2020 ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น แต่จะไม่มีสิทธิ์ทำงานได้ คุณหมอวีซ่าจึงอยากทำความเข้าใจให้ทุกคนทราบว่า วีซ่าโควิด 408 ตัวนี้ ไม่ใช่ขอเผื่อจะได้อยู่ทำงานในออสเตรเลียนะคะ

สำหรับคนที่ไม่เข้าข่ายทำวีซ่า 408 ได้ คุณหมอวีซ่าอยากจะให้ tips นิดนึงว่า ช่วงนี้วีซ่าท่องเที่ยวขอไม่ยากนะคะ เนื่องจากรัฐบาลเองก็ไม่อยากให้คนเดินลอยนวลอยู่ในออสเตรเลียโดยที่ไม่มีวีซ่าถือติดอยู่กับตัว กลายเป็นโรบินฮูด ที่อยู่อย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จำไว้ว่าอย่าปล่อยให้วีซ่าตัวเองขาด หาทางทำวีซ่าอะไรก็ได้ที่ให้ตัวเองอยู่ต่อไปได้อย่างถูกกฎหมาย จะได้ไม่ต้องมาตรา 48 สร้างความลำบากให้ชีวิตและอนาคตของตนเองเปล่าๆค่ะ

อนึ่ง ช่วงนี้ ผู้ที่ขอวีซ่าคู่รัก หรือพาร์ทเน่อร์วีซ่านั้น ก็มีวีซ่าผ่านออกมาให้อยู่พอควรเหมือนกัน แต่กลุ่มที่มีปัญหาใหญ่ที่สุด ก็คือ ผู้ที่มีนายจ้างสปอนเซอร์ให้มาทำงานที่ออสเตรเลีย ที่เราเรียกว่าวีซ่า 482 หรือที่เคยมีชื่อว่า 457 เนื่องจากธุรกิจที่ถูกกระทบมากที่สุดจากเหตุการณ์โควิดครั้งนี้ ก็คือธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหาร คาเฟ่ต่างๆ ซึ่งคนไทยทำงานอยู่กันเยอะมาก แล้วก็ได้รับสปอนเซอร์จากนายจ้างมาเยอะมากด้วย พอร้านได้รับผลกระทบ ลูกจ้างก็ตกงานบ้าง โดนลดวัน ลดค่าจ้าง สารพัด แถมไม่มีสิทธิ์ได้เงินช่วย JobKeeper เพราะไม่ได้เป็น Australian PR or citizen ที่นี่

การให้คำแนะนำทางด้านวีซ่าในยุคโควิดครั้งนี้ เรียกว่าท้าทายมากค่ะ เพราะบางครั้งคำแนะนำดีๆตามกฎหมายเดิมๆที่เราเคยให้กับลูกค้านั้น จะต้องมีการพลิกแพลง โดยต้องหากลยุทธ์ต่างๆ และใช้กลวิธี วิชากังฟูทุกฝีไม้ลายมือก็ต้องควักออกมาใช้ให้หมด  เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้อาศัยอยู่ที่นี่ต่อได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะในระยะที่ไม่สามารถหาตั๋วเครื่องบินกลับบ้านได้ จัดว่าเป็นยุคที่ท้าทายเป็นอย่างยิ่งค่ะ

อีกเรื่อง คือ ช่วงถูกกักตัวอยู่กับบ้านจะเห็นได้ว่าหน่วยงานครอบครัวต่างๆจะมีการออกมาพูดถึงเรื่องการเกิดความรุนแรงในครอบครัว (Family Violence) กันมากขึ้น ช่วงนี้คุณหมอวีซ่าก็เลยวุ่นวายยุ่งอยู่กับเรื่องการให้ความช่วยเหลือคนไทยหลายท่านที่ได้แต่งงานหรือมีคู่ครองเป็นคนออสเตรเลีย แล้วเรื่องความเครียดจากโควิดที่เป็นเหตุโยงไปสู่เรื่องการเกิดความรุนแรงในครอบครัว แต่วันนี้เวลาของคุณหมอวีซ่าหมดลงละ เอาไว้ฉบับหน้าคุณหมอวีซ่าจะเขียนเรื่องความรุนแรงในครอบครัว เพื่อชี้แจงให้กับท่านผู้อ่านว่า อย่าเพิ่งหมดหวังหมดหนทางนะคะ เพราะว่ากฎหมายมีช่องทางให้ท่านสามารถข้ามฝั่งไปเป็นผู้ถือถิ่นฐานถาวรในออสเตรเลียได้โดยที่ไม่ต้องอาศัยฝ่ายสปอนเซอร์อีกต่อไป แล้วคอยติดตามอ่านกันในฉบับหน้าเร็วๆนี้นะคะ

Domestic Violence – Hope and Help

สำหรับฉบับวันนี้ ขอสวัสดีลาไปก่อนนะคะ ขอให้ทุกท่านดูแลตัวเองให้ดีๆ รักษาสุขภาพให้แข็งแรง สู้สู้ We’re in it together!

—————————————

คุณหมอวีซ่าและทีมงานได้ดูแลเรื่องวีซ่าให้กับลูกค้ามาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1997 สามารถช่วยท่านขอวีซ่า หรือแก้ปัญหาวีซ่าให้ท่านได้ โดยเฉพาะในยุคของโคโรนาไวรัสช่วงนี้ เพื่อความปลอดภัยและสวัสดิการของทีมงานและลูกค้า ทีมงานเราก็ทันยุคทำงานจากบ้านกันซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ช่วงนี้จะเข้าออฟฟิศทุกวันพุธกับวันพฤหัส หรือตามโทรนัด ส่วนการบริการทุกอย่างยังเหมือนเดิมค่ะ ท่านสามารถติดต่อทีมงานเราได้ที่:

📍 CP International อาคารพหลโยธินเพลส ชั้น 9 (ติด BTS อารีย์)

📞 โทร 081-359-6190, 081-359-6189

📱 Line: http://bit.ly/2CQtZ7f

📷 IG : CPInternational_education

📱 Twitter: @cpinterlive